นายปกรณ์
นิลประพันธ์
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 “มลทิน” เป็นคำนาม แปลว่า. “ความมัวหมอง,
ความด่างพร้อย, ความไม่บริสุทธิ์.”
โดยทั่วไป การล้างมลทินจะกระทำโดยการตราเป็นพระราชบัญญัติล้างมลทินเนื่องในโอกาสสำคัญต่าง
ๆ และผู้ใดจะได้รับการล้างมลทินหรือไม่ย่อมเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายล้างมลทินแต่ละฉบับบัญญัติไว้
สำหรับผลทางกฎหมายของการล้างมลทินนั้น
ถือว่าผู้นั้น “ไม่เคยถูกลงโทษในความผิดนั้น” มาก่อน หรือถ้าเป็นกรณีการลงโทษทางวินัยก็ให้ถือว่าผู้นั้น “ไม่เคยถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณีนั้น”
มาก่อน การล้างมลทินจึงเป็นการ “ล้างโทษ” ที่เคยได้รับเพื่อไม่ให้มีมลทินติดตัว
แต่ “การกระทำหรือความประพฤติที่เป็นเหตุให้ผู้นั้นถูกลงโทษ” มิได้ถูกลบล้างไปด้วย
ซึ่งสอดคล้องกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2539 นอกจากนี้
การล้างมลทินไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้ได้รับการล้างมลทินที่จะเรียกร้องสิทธิหรือประโยชน์ใด
ๆ เว้นแต่กฎหมายล้างมลทินนั้นจะบัญญัติเรื่องดังกล่าวไว้เป็นการเฉพาะ
ส่วนการพระราชทานอภัยโทษถือเป็น
“พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์” ตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศไทย
โดยรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาก็ยืนยันพระราชอำนาจนี้ตลอดมา ทั้งนี้ การพระราชทานอภัยโทษนั้นมิได้จำกัดเฉพาะโทษทางอาญาเท่านั้น
พระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษจึงครอบคลุมทั้งโทษทางอาญา
โทษทางวินัย และโทษอื่นด้วย
ในกรณีโทษอาญานั้น หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของการอภัยโทษมีบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะในภาค 7 อภัยโทษ เปลี่ยนโทษหนักเป็นเบา และลดโทษ ตามมาตรา 259 ถึงมาตรา 267 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยผลของการอภัยโทษทางอาญานั้น กฎหมายห้ามมิให้บังคับโทษนั้นต่อไป
หรือถ้าเป็นโทษปรับที่ชำระแล้วก็ให้คืนค่าปรับให้ไปทั้งหมด แต่มิได้ลบล้างโทษทางอาญาที่เคยได้รับมาก่อน
ส่วนการอภัยโทษทางวินัยนั้นไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดบัญญัติหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการดำเนินการดังกล่าวไว้เป็นการเฉพาะ
การดำเนินการอภัยโทษทางวินัยและผลของการอภัยโทษทางวินัยจึงต้องเป็นไปตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศไทย
กล่าวคือ เมื่อมีพระบรมราชโองการให้อภัยโทษทางวินัยแก่ผู้ใด
ก็ต้องมีรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชกระแสอภัยโทษทางวินัยต่อไป
อ้างถึง
เรื่องเสร็จที่
1056-1057/2554
คำพิพากษาฎีกาที่
694/2539
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น