บ้านเรานั้นองค์กรที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดคือองค์กรราชการ หรือที่คนทั่วไปมักจะเรียกกันว่าระบบราชการ
องค์กรราชการนี้มีโครงสร้าง หน้าที่ และอำนาจที่ชัดเจน มีบุคลากรจำนวนมาก และเป็นองค์กรที่ใช้จ่ายเงินมากที่สุดของประเทศ ดังนี้ องค์กรราชการจึงมีส่วนอย่างสำคัญในการพัฒนาประเทศ
แน่นอน เมื่อมีโครงสร้างขนาดใหญ่ ระบบริหารจัดการภายในย่อมมีความซับซ้อน การขยับขับเคลื่อนในแต่ละเรื่องจึงทำได้ค่อนข้างช้า เพราะมีกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามมากมายเพื่อความเป็นเอกภาพของระบบ
ที่น่าสนใจก็คือแทบจะไม่มีการทบทวนกฎระเบียบเหล่านี้ให้เหมาะสมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปเลย เคยปฏิบัติกันมาอย่างไร ก็ปฏิบัติสืบเนื่องกันต่อ ๆ ไปอย่างนั้น เพราะความคุ้นชินที่ปฏิบัติกันมานมนาน และความกลัวที่มีต่อการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งความกลัวว่าเมื่อเปลี่ยนแปลงแล้วจะทำให้ความลงตัวหรือความสบายในการปฏิบัติหน้าที่ (comfort zone) ที่ตนเคยมีอยู่ต้องหายไป ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบที่ใช้กับองค์กรราชการเองและกฎระเบียบที่ใช้กับพี่น้องประชาชนผู้รับบริการ
และเมื่อมีบุคลากรจำนวนมาก ก็ย่อมมีทั้งคนดีและไม่ดีเหมือนกับองค์กรอื่น แต่คนไม่ดีซึ่งมีจำนวนไม่มากนี่แหละที่ทำให้คนดี ๆ ในระบบราชการส่วนใหญ่ รวมทั้งตัวระบบเอง ต้องพลอยเสียชื่อเสียงไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือทุจริต หรือแม้กระทั่งการปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะที่เรียกกันว่าทำราชการเป็นงานไซด์ไลน์หรือไม่ก็นั่งอยู่ที่ทำงานแต่ไม่ทำอะไรนอกจากหายใจทิ้งไปวัน ๆ
ส่วนการใช้จ่าย ถ้าการใช้จ่ายของระบบราชการมีความทันสมัยและเปิดเผยโปร่งใส ก็จะช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุด ทั้งยังช่วยลดการทุจริตและประพฤติมิชอบได้ด้วย
สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ “ความเชื่อมั่น” ของพี่น้องประชาชนต่อองค์กรราชการที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change agent) ของประเทศ กลับลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ จนบางท่านถึงกับออกปากว่าองค์กรราชการปัจจุบันเป็น Unchanged agent หรือองค์กรที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสียมากกว่า
รัฐธรรมนูญ 2560 ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาองค์กรราชการเป็นอย่างมาก มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่าการลดความเหลื่อมล้ำ และการพัฒนาการศึกษา กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคำนึงถึงความท้าทายในอนาคตที่องค์กรราชการกำลังเผชิญหน้าอยู่เงียบ ๆ แต่รุนแรง 2 ประการ
ประการแรก ได้แก่ Disruptive Technology ซึ่งทำให้บริบทของโลกเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมาก ที่ระบบราชการอย่างน้อยต้อง “ตามให้ทัน” เพื่อให้การให้บริการแก่พี่น้องประชาชนเป็นไปโดยมีข้อมูลรองรับชัดเจน ต้องรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในยุคดิจิทัล รวมทั้งมีการเปิดเผยผลการดำเนินงาน ผลผลิต ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้รับทราบ และมีส่วนร่วมในด้านต่าง ๆ
อีกประการหนึ่ง ได้แก่การเข้าสู่ Ageing society อย่างเต็มตัวของประเทศไทย เพราะการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยจะมีผลกระทบด้านต่าง ๆ มากมาย ทั้งสภาพครอบครัว สภาพสังคม การจ้างงาน การสาธารณสุข ฯลฯ องค์กรราชการจะต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติ โครงสร้าง อัตรากำลัง และวิธีทำงานอย่างไร จะทำงานร่วมกับท้องถิ่น ชุมชน และอาสาสมัครอย่างไร เรื่องนี้มาแบบเงียบ ๆ แต่จะส่งผลกระทบต่อองค์กรราชการในอนาคตอย่างมากในไม่ช้า เช่นเดียวกับที่หลายประเทศกำลังประสบอยู่ในขณะนี้
เหล่านี้คือความท้าทายที่องค์กรภาครัฐต้องร่วมกันคิดอ่านหาทางรองรับไว้ เพื่อให้ผู้คนในสังคมในอีกสิบปีหรือยี่สิบปีข้างหน้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ก็อยากชวนคิดครับ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น