มีผู้สันทัดกรณีหลายท่านตั้งข้อสังเกตว่าผู้เขียนคงจะแก่มาก เห็นอะไรนิดอะไรหน่อยก็เอามาคิดเป็นตุเป็นตะ แล้วก็เอามาบ่นให้ฟังกัน
แก่น่ะแก่ครับ แต่ยังไม่มาก ส่วนเรื่องคิดนี่ คิดมากจริง ๆ ครับ ที่คิดมากนี่ก็เพราะลูกยังเล็ก หลานก็ยังละอ่อนนัก จึงอยากเห็นคนรุ่นลูกรุ่นหลานอยู่กันอย่างผาสุกและในบ้านเมืองที่เจริญพัฒนาสถาพรอย่างยั่งยืนเหมือนบ้านอื่นเมืองอื่นเขาบ้าง
ดังนั้น เมื่อเห็นอะไรหรือได้ยินอะไรแปลก ๆ ก็มักจะเก็บมาคิดจนติดเป็นสันดาน แล้วก็เลยมาชวนให้สังคมได้ร่วมกันขบคิดเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมสำหรับลูกไทยหลานไทยในอนาคตด้วย ดีกว่าหาเรื่องฟัดกับคนอื่นไปวัน ๆ อย่างที่ตัวเองเคยเจอมาตั้งแต่เด็กจนแก่ที่ไม่เกิดประโยชน์อันใด ไม่สร้างสรรค์ รังแต่จะสร้างความแตกแยกร้าวฉาน
จริง ๆ ก็แอบสงสัยนะว่าเขาไม่ต้องทำงานทำการกันหรืออย่างไร จึงว่างมาก มีเวลาจ้อได้ทุกวี่ทุกวัน สามเวลาหลังอาหาร แล้วนี่เขาเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่งตัวก็ดี ขี่รถก็หรู กินอยู่ตามโรงแรม แหมผู้เขียนทำงานแทบตายกว่าจะได้สักบาท
กลับมาบ่นต่อดีกว่า เมื่อวานช่วงดูละครทีวี เห็นเขาโฆษณาโชว์นมขายนมกันโจ๋งครึ่ม นมผงนะครับ อย่าคิดมาก เห็นบอกว่าเป็นประโยชน์ต่อเด็กมากเพราะมี DHA จากปลาทะเลน้ำลึกมากกว่าสูตรเดิมหลายเท่านัก
ตอนแรกก็คิดขำ ๆ เพียงว่าช่างอลังการเสียจริงพ่อคุณ DHA จากปลาทะเลไม่พอ ต้องเป็นทะเลน้ำลึกด้วย อีกหน่อยคงต้องระบุด้วยว่าจากแอตแลนติก หรือถ้าจะให้ลึกจริง ๆ ก็ต้องจากร่องมาเรียน่า เอาให้ลึกสุด ๆ ไปเลย จะได้ฟิน
ขำไปขำมาก็นึกได้ว่าที่เขาเพิ่ม DHA ก็เพื่อบำรุงสมองของเด็ก นับว่าเป็นประโยชน์มาก เด็กจะได้มีสมองดี เป็นนัยว่ากินแล้วจะฉลาดว่างั้น
แต่นั่นเป็นเรื่องทางกายภาพ ลำพังเนื้อสมองดีอย่างเดียวคงไม่ช่วยอะไรมากถ้าเราเลี้ยงเด็กไม่ถูกทาง โดยเฉพาะการอบรมบ่มเพาะให้เขารู้จักตนเอง รู้จักช่วยเหลือตนเอง มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อครอบครัว รู้จักการอยู่ร่วมกับคนอื่น มีความรับผิดชอบต่อสังคม รู้จักปรับตัว มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อันเป็นทักษะพื้นฐานของชีวิตมนุษย์
ดังนั้น ถึงให้กินนมดีสักร้อยกระป๋องพันกระป๋อง แต่หากขาดการอบรมสอนสั่งให้รู้จักทักษะพื้นฐานของชีวิตดังที่ว่า เด็กจะมีความบกพร่องในทักษะพื้นฐานซึ่งมันจะติดตัวเขาไปจนตลอดชีวิต แล้วเมื่อเขาเติบโตไปมีครอบครัว เขาก็จะไม่มีวันถ่ายทอดทักษะชีวิตที่ถูกต้องให้แก่ลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไปได้
ประเทศที่พัฒนาแล้วเขาจึงให้ความสำคัญกับการบ่มเพาะลักษณะข้างต้นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย คนของเขาจึงรู้จักช่วยเหลือตัวเอง ไม่เอาแต่ร้องงอแงแบมือขอ รู้จักรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ใช่ให้สังคมไปรับผิดชอบเขา รู้จักอดทน มีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา ที่สำคัญคือรักที่จะเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ จึงไม่แปลกอันใดที่สังคมของเขาจะสงบเรียบร้อยโดยไม่ต้องมีกฎหมายหรือเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ให้มันมากนัก และคนเขารู้จักทำมาหากิน ไม่เอาแต่งอมืองอเท้าเรียกร้องให้ใครมาช่วยซ้ำ ๆ ซาก ๆ
เคล็ดลับความสำเร็จนี้อยู่ที่ “ครอบครัว” ครับ ไม่ใช่ตัวบทกฎหมาย
คุณลักษณะเหล่านี้มันต้องปลูกฝังตั้งแต่เล็ก ๆ เพราะไม้อ่อนดัดง่าย โตมาแล้วอย่าหวังเลย เรื่องอดทนนี่เป็นตัวอย่างอันดี เด็กที่บ้านไม่สอนให้รู้จักความอดทนมักจะรออะไรไม่ได้ ให้เข้าคิวเข้าแถวก็มีแนวโน้มจะแหกคิวหนีแถว มีข้ออ้างสารพัน ไม่เชื่อลองให้เข้าแถวกลางแดดดูก็ได้ครับ เสียงโอดโอยจะอึงคะนึงขึ้นมาเลย ร้อนบ้าง เหงื่อออกบ้าง เดี๋ยวดำบ้าง เดี๋ยวฝ้าขึ้น ท้องเสีย ปวดหัวตัวร้อน ฯลฯ สารพัด
แต่ถ้าลองเยี่ยงนี้ดูครูอาจต้องปวดหัวเพิ่ม เพราะเมื่อเรื่องเข้าหูพ่อแม่ บุพการีก็มักจะยกขบวนไปต่อว่าครูว่าทำไมต้องให้เด็กเข้าแถวตากแดด เผลอ ๆ มีคลิปการตำหนิว่อนในโซเชียลอีก
บอกตรง ๆ ว่าแบบนี้นี่พ่อแม่รังแกลูกนะครับ ไม่ใช่ครู เพราะท่านเองนั่นแหละที่ไม่ได้สอนทักษะชีวิตพื้นฐานอันจำเป็นในการดำรงชีวิตให้ลูกของท่านเอง ประคบประหงมกันเหมือนไข่ในหิน ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าชีวิตจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก และในไม่ช้าก็เร็วเราก็ต้องจากเขาไป เขาก็ต้องดูแลตัวเองอยู่ดี แล้วถ้าเขาไม่มีทักษะชีวิตเหล่านี้ ชีวิตเขาจะเป็นอย่างไร
ดังนั้น ต่อให้กินนมที่มี DHA มากมายเท่าไร ก็ไม่ได้เป็นหลักประกันหรอกครับว่าลูกหลานของท่านจะประสบความสำเร็จถึงจะเรียนมาสูงส่งปานใด ถ้าครอบครัวไม่ปลูกฝังทักษะชีวิตที่ดีให้เขามาตั้งแต่แรก
ชวนคิดครับ อย่าคิดมาก แค่เห็นบ้านเราให้ความสำคัญกับ Hardware มากกว่า Software เท่านั้น
ไปกินนมดีกว่า.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น